fbpx

เสาวรสผลไม้รสชาติจี๊ดจ๊าด ประโยชน์เยอะ วิตามินซีสูง

เสาวรส ผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด ที่มีสรรพคุณมากมายหลายอย่าง มีประโยชน์ต่อสุขภาพผิว ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ช่วยชะลอไม่ให้เกิดริ้วร้อย บ้างก็นำเสาวรสมาทานสดๆเลย หรือบางทานก็ทำพริกป่นกับเกลือมาใส่เพื่อลดความเปรี้ยวของเสาวรส อีกทั้งยังสามารถนำมาทำได้หลากหลายเมนูอีกด้วยนะ จะมีเมนุอะไรกันบ้างไปดูพร้อมๆกันเลย

 

ประโยชน์ของเสาวรส

  • ช่วยบำรุงผิวพรรณ เสาวรสช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใสเปล่งปลั่งได้ด้วย จึงไม่แปลกใจที่เสาวรสถูกใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางได้ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์รักษาสิว ผลิตภัณฑ์กันแดด เพราะมีสรรพคุณช่วยในการสมานผิว การอับเสบของสิว รักษาเนื้อเยื่อผิวหนังได้ดี ช่วยทำให้เล็บและเส้นผมแข็งแรงอีกด้วย
  • ช่วยบำรุงสายตา เสาวรสอุดมไปด้วยวิตามินเอ และมีสารฟลาโวนอยด์อย่างเบต้าแคโรทีน (Betacarotene) ซึ่งถือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยป้องกันเซลล์ประสาทตาถูกทำลาย และช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี
  • ลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน เสาวรสอุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่มีส่วนช่วยในการบำรุงและเสริมสร้างกระดูกสูง จึงช่วยป้องกันภาวะกระดูกพรุนและกระดูกแตกหักได้เป็นอย่างดี เพียงแค่นำผลเสาวรสแก่จัดมาคั้นเอาแต่น้ำ เพิ่มรสชาติด้วยเกลือและน้ำตาลเล็กน้อย ก็สามารถดื่มได้ทันที เท่านี้ก็จะทำให้ห่างไกลจากโรคกระดูกพรุน
  • ช่วยเพิ่มความสดชื่น น้ำเสาวรสช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย มีวิตามินบี 2 ซึ่งช่วยบำรุงผิวพรรณ เล็บ และเส้นผม มีแคลเซียมซึ่งมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกเสื่อมและกระดูกหัก มีโพแทสเซียมสูง ช่วยให้มีสติปัญญา จิตใจร่าเริงแจ่มใส ด้วยการส่งออกซิเจนไปเลี้ยงที่สมอง
  • ช่วยให้นอนหลับสบาย เสาวรส หรือ กะทกรกฝรั่ง หากคุณดื่มน้ำเสาวรสเป็นประจำก็จะช่วยทำให้นอนหลับสบายขึ้น เพราะเสาวรสมีสารเซโรโทนินซึ่งเป็นสารที่มีหน้าที่ควบคุมการนอนหลับ ช่วยลดความเครียดและอาการซึมเศร้า เมื่อกินเสาวรสแล้วจึงทำให้ร่างกายหลับง่ายขึ้น โดยมีผลการทดลองว่าเพียงแค่ดื่มชาเสาวรสก็ช่วยให้นอนหลับสบายขึ้นแล้ว

 

ทาร์ตเสาวรส

ไปตามร้านเบเกอรีอาจจะเจอเมนูนี้ รสชาติความหวานที่ตัดด้วยความเปรี้ยวของเสาวรส สามารถเข้ากันได้อย่างลงตัว รสชาติกลมกล่อมเต็มๆคำ

ส่วนผสม

  • เนยจืดคลายเย็น 62 กรัม
  • น้ำตาลทราย 43 กรัม
  • กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
  • ผงอัลมอนด์ 13 กรัม
  • ไข่ไก่ทั้งฟอง 30 กรัม
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 105 กรัม
  • ครีมชีส 150 กรัม
  • มะม่วงบด (Mango Puree) 20 กรัม
  • น้ำผึ้ง 60 กรัม
  • วิปปิ้งครีม 40 กรัม
  • ชีสมาสคาร์โปเน 20 กรัม
  • เจลาติน 1 แผ่นยาว
  • เสาวรสบด (Passion Fruit Puree) 30 กรัม
  • เสาวรสบด (Passion Fruit Puree) 100 กรัม
  • เนื้อเสาวรสพร้อมเม็ด 30 กรัม
  • น้ำผึ้ง 50 กรัม
  • เจลาตินแช่น้ำจนนิ่ม 1 แผ่น

วิธีทำ

  • พักเนยจืดให้คลายเย็น (เนยยังมีความเย็นอยู่แต่ไม่เละ) ใส่เนยลงในเครื่องผสมใช้หัวตีใบไม้ ใส่น้ำตาล ตีส่วนผสมด้วยความเร็วปานกลางจนไม่มีลิ่มเนยและส่วนผสมเข้ากันดี
  • เติมผงอัลมอนด์ ตีต่อด้วยความเร็วต่ำ เติมไข่และกลิ่นวานิลลา ตีจนเข้ากันดีแล้วใส่แป้งสาลี  ตีจนพอเข้ากัน ห่อแป้งด้วยพลาสติกแร็ปแล้วแช่ตู้เย็นอย่างน้อย 1 ชั่วโมงหรือข้ามคืน
  • นำแป้งออกมาพักไว้นอกตู้เย็นเพื่อให้มีความคงตัวมากขึ้น จากนั้นรีดแป้งเป็นแผ่นบางประมาณ 2-3 มิลลิเมตร กรุลงพิมพ์ นำไปแช่ช่องแข็งไว้ 10 นาที
  • ระหว่างนั้นอุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นำแป้งทาร์ตเข้าอบไฟบน-ล่างนาน 15 นาที จากนั้นลดอุณหภูมิลงเหลือ 160 องศาเซลเซียส อบต่ออีก 10-12 นาที หรือจนทาร์ตสุกสีเหลืองสวย  ยกออกจากเตา พักไว้ให้หายร้อน
  • ตีครีมชีสให้เนียนด้วยหัวตีใบไม้ เติมน้ำผึ้ง ตีต่อให้เข้ากัน ใส่ชีสมาสคาร์โปเน
  • เติมมะม่วงบดและเสาวรสบด ตีต่อจนเข้ากัน (ปาดขอบอ่างและก้นอ่างผสมเพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันดี)
  • แช่เจลาตินในน้ำเย็นจนนิ่มแล้วบีบน้ำออก
  • อุ่นวิปปิ้งครีมในไมโครเวฟพอร้อน ใส่เจลาตินลงไป คนให้ละลาย แล้วเทลงในส่วนผสม  ตีจนเนียนดี เทลงแป้งทาร์ตที่อบสุกแล้ว แช่ในตู้เย็นช่องแช่แข็งจนเซ็ตตัวประมาณ 30 นาที
  • อุ่นเสาวรสบดพอร้อน ใส่เจลาตินลงไป คนให้ละลาย เติมน้ำผึ้ง คนให้เข้ากัน
  • เทราดบนชีสทาร์ตที่เซ็ตตัวแล้ว นำไปแช่เย็นต่ออีกประมาณ 20 นาที ตกแต่งด้วยผลไม้ตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ

 

เสาวรสสมูทตี้

สูตรนี้รับประกันความทำง่าย วัตถุดิบเพียงไม่กี่อย่าง แถมวิธีทำก็มีไม่กี่ขั้นตอน เพียงเท่านี้ก็ได้เมนูที่สดชื่นแล้ว อร่อยแถมได้ประโยชน์เน้นๆ

ส่วนผสม

  • เสาวรส 3 ลูก
  • กล้วยหอม 1 ลูกเล็ก
  • มะม่วง 1 ลูกเล็ก
  • สับปะรดหั่นชิ้น 1 ถ้วย
  • น้ำส้ม 1 ถ้วย
  • น้ำแข็ง

วิธีทำ

  • ตักเนื้อเสาวรสใส่ลงเครื่องปั่น ตามด้วยกล้วยหอม มะม่วง สับปะรด และน้ำส้ม ปั่นจนเนื้อเนียนละเอียด
  • เทใส่แก้ว เติมน้ำแข็ง จัดเสิร์ฟ

 

พานาคอตตาเสาวรส

พานาคอตตาเนื้อนุ่มละมุนลิ้น อร่อยติดใจ มาพร้อมกับความเปรี้ยวของเสาวรส ตักเข้าไปในปากเต็มๆคำ บอกเลยว่าฟินสุดๆเลยหล่ะ

ส่วนผสม

  • นมสด150 กรัม
  • วิปปิ้งครีม150 กรัม
  • น้ำตาล¼ ถ้วย
  • กลิ่นวานิลลา1 ช้อนชา
  • ผงเจลลาติน4 กรัม
  • น้ำเย็นจัด30 กรัม
  • น้ำเสาวรส¼ ถ้วย
  • น้ำตาลทรายปริมาณแล้วแต่ชอบ (หรือไม่ใส่ก็ได้)
  • ผงเจลลาติน2 กรัม
  • น้ำเย็นจัด1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  • นำเจลาตินผสมกับน้ำเย็นจัด แล้วพักไว้ให้เซ็ตตัว
  • จากนั้นเอานมสม วิปปิ้งครีม กลิ่นวานิลลา และน้ำตาลทรายใส่รวมกัน ยกขึ้นตั้งไฟปานกลาง
  • คนให้น้ำตาลละลายให้หมด และนมร้อนไม่ถึงกับเดือด
  • จากนั้นยกลงจากเตา ใส่เจลาตินที่พักไว้ ละลานเข้าด้วยกัน
  • หลังจากนั้นเอาไปกรองแล้วเทลงพิมพ์ตามชอบ
  • เอาไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมงก่อน
  • มาทำในส่วนของซอสเสาวรส นำเสาวรสไปกรองเอาแต่น้ำ
  • เอาเจลาตินส่วนที่ 2 ไปแช่ในน้ำเย็นจัด พักไว้ให้เซ็ตตัว
  • เอาน้ำเสาวรสไปต้มให้พอร้อน หากต้องการให้หวานมากขึ้นเติมน้ำตาลทรายไปได้
  • หลังจากนั้นก็ยกลงจากเตา ใส่เจลาตินลงไปคนให้เข้ากัน
  • แล้วเอาไปเทด้านบนอีกที จากนั้นก็แช่ต่อในตู้เย็นอย่างน้อย 4 ชั่วโมง หรือข้ามคืนยิ่งดี
  • แช่ทิ้งไว้ข้ามคืนเจลาตินจะเซ็ตตัวดีมาก
  • เวลาเอาออกจากพิมพ์ให้เอาผ้าชุบน้ำอุ่น มาห่อทิ้งไว้สักพัก
  • แล้วค่อยๆ เอาออกจากพิมพ์ ราดด้วยเสารสสดๆ เพิ่มความสดชื่น

 

เสาวรสโซดา

แค่ชื่อเมนูก็สัมผัสได้ถึงความชื่นใจแบบ 100% ใครที่กำลังกระหายน้ำแนะนำเมนูนี้เลย ช่วยคลายร้อนได้เป็นอย่างดี แถมสดชื่นตลอดทั้งวัน

ส่วนผสม

  • เนื้อและน้ำเสาวรสสด 1/4 ถ้วย
  • น้ำเชื่อมจากหญ้าหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
  • โซดากลิ่นเลมอน 2  กระป๋อง
  • น้ำแข็งบด 2  แก้ว
  • ดอกไม้กินได้สำหรับตกแต่ง

วิธีทำ

  • ผสมเสาวรสกับน้ำเชื่อมคนให้เข้ากัน ใส่แก้วสำหรับเสิร์ฟ
  • ใส่น้ำแข็งบดให้เต็มแก้ว เทโซดากลิ่นเลมอนใส่ ตกแต่งด้วยดอกไม้กินได้

 

แยมเสาวรส

ใครที่ยอมทานขนมปังแยม เราก็มีสูตรการทำแยมเสาวรสมาฝากอีกด้วย ทำติดไว้ที่บ้านไว้กินยามเช้าก่อนไปทำงานหรือไปเรียน อิ่มท้องได้ทั้งวัน

ส่วนผสม

  • เนื้อเสาวรส (รวมเม็ด) 200 กรัม
  • น้ำตาลทราย 80-100 กรัม (ขึ้นอยู่กับความเปรี้ยวของเสาวรส)
  • น้ำมะนาวนิดหน่อย
  • เกลือนิดเดียว
  • เพกติน 1/4 ช้อนชาผสมกับน้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ

  • ผสมเสาวรสกับน้ำตาลทราย ใส่เกลือแค่ติดปลายนิ้ว กวนด้วยหม้อสแตนเลสค่อนข้างหนา กวนแบบเดือดจริงจัง
  • ครู่เดียวก็ใสแล้วเพราะทำในปริมาณที่น้อยมาก ชิมรสดูก่อนแล้วค่อยเติมมะนาวและเพกตินผสมน้ำตาลทรายที่เตรียมไว้ ใส่ให้ข้นเท่าที่ชอบ

 

บทส่งท้าย

จบกันไปแล้วกับบทความเรื่องเสาวรส เป็นอย่างไรกันบ้าง ประโยชน์เยอะจนน่าตกใจเลยใช่ไหมหล่ะ แถมยังดีต่อสุขภาพผิวอีกด้วย สาวๆต้องชอบกันอย่างแน่นอน และเมนูที่เรานำมาให้นั้น เชื่อว่าก็ต้องถูกใจอย่างแน่นอน วันนี้ สุมาลี ต้องขอตัวลาไปก่อน เจอกันใหม่ในบทความหน้า หากท่านใดสนใจติดตาม สุมาลี สามารถแอดไลน์ @sumireth ได้เลย

 

 

ขอขอบคุณที่มาข้อมูล

บทความที่เกี่ยวข้อง