เราอาจจะคุ้นเคยกับการใช้น้ำมันพืชในการประกอบอาหารเป็นหลัก ซึ่งน้ำมันพืชถ้าบริโภคเข้าไปในปริมาณมาก ๆ อาจจะเป็นการเพิ่มแคลอรี และไขมันสะสมในร่างกายได้ สำหรับใครที่เป็นสายรักสุขภาพ เราแนะนำให้คุณเลือกใช้น้ำมันรำข้าวในการประกอบอาหาร เพราะดีต่อสุขภาพมากกว่า ถ้าอย่างงั้นเรามาดูกันว่าประโยชน์ของน้ำมันรำข้าวมีอะไรบ้าง ?
หัวข้อบทความ
Toggleน้ำมันรำข้าวคืออะไร ? ทำความรู้จักก่อนเริ่มใช้
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักน้ำมันรำข้าวกันให้มากขึ้นก่อนดีกว่า น้ำมันรำข้าว ชื่อวิทยาศาสตร์ เรียกว่า Rice Bran Oil น้ำมันรำข้าวทำมาจากเมล็ดข้าว หรือส่วนที่เรียกว่า รำ ช่วยต้านอนุมูลอิสระมากกว่าวิตามินอีถึง 6 เท่า และมีระดับแคลอรีเพียง 120 แคลอรี จึงไม่น่าแปลกใจที่หลาย ๆ คนนิยมใช้น้ำมันรำข้าวในการประกอบอาหาร เพราะถือว่าเป็นไขมันดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
6 ประโยชน์ของน้ำมันรำข้าว ที่คุณควรรู้
1. น้ำมันรำข้าวช่วยป้องกันโรคไขมันอุดตันเส้นเลือด
2. บำรุงประสาท และสมอง ช่วยให้ความจำดีขึ้น
3. น้ำมันรำข้าวช่วยป้องกันการเกิดมะเร็ง
4. กินน้ำมันรำข้าวก่อนนอนทุกวัน ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูเนียนนุ่ม ดูอ่อนเยาว์ลงอย่างเป็นธรรมชาติ
5. ช่วยบำรุงสายตา ช่วยฟื้นฟูระดับสายตาช่วยให้การมองเห็นชัดเจนขึ้น
6. น้ำมันรำข้าวมีสรรพคุณช่วยป้องกันโรคเบาหวาน น้ำมันรำข้าวช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติได้
อย่างไรก็ตามน้ำมันรำข้าวไม่ได้มีแค่ข้อดีเพียงอย่างเดียว ข้อเสียของน้ำมันรำข้าวก็ยังมีให้เห็นอยู่บ้างแม้เพียงเล็กน้อย อย่างที่บอกว่าน้ำมันรำข้าวช่วยต้านอนุมูลอิสระได้ แต่ถ้าทานมากเกินไปอาจจะทำให้เกิดการอักเสบได้ ในช่วงสัปดาห์แรกที่เริ่มทานคุณอาจจะรู้สึกไม่สบายท้อง มีก๊าซในช่องท้อง ดังนั้นควรกินแต่พอดี ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป
น้ำมันรำข้าวเหมาะกับการประกอบอาหารประเภทใด
น้ำมันรำข้าวมีสรรพคุณที่โดดเด่นกว่าน้ำมันชนิดอื่น ๆ ทั้งในเรื่องของปริมาณในแคลอรี และเป็นน้ำมันที่สามารถทนความร้อนได้ดี จึงเหมาะกับการประกอบอาหารทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น ผัด ทอด หรือใช้ทำน้ำสลัด รวมถึงการทำขนมบางชนิดก็สามารถใช้น้ำมันรำข้าวได้
น้ำมันรำข้าวใช้ทอดได้ไหม และควรใช้อุณหภูมิเท่าไหร่ ?
น้ำมันรำข้าวเด่นในเรื่องโภชนาการ สามารถใช้ทอดได้เช่นเดียวกันกับน้ำมันประเภทอื่น ๆ แต่จุดเดือดของน้ำมันรำข้าวไม่เท่าน้ำมันชนิดอื่น สามารถทอดแบบ Deep fry แต่ควรใช้เวลาไม่นาน เพราะอาจจะทำให้อาหารที่ทอดหืนไวได้ ซึ่งอุณหภูมิที่เหมาะสมในการใช้คือ 254 องศาฟาเรนไฮต์
เปรียบเทียบปริมาณโอเมก้า 3 ในน้ำมันรำข้าวกับน้ำมันอื่น ๆ
ไขมันโอเมก้า 3 หรือไขมันอิ่มตัว ซึ่งร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ต้องได้รับการกินอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ปลาทะเลน้ำลึก ธัญพืชบางชนิด น้ำมันปาล์ม น้ำมันงา และน้ำมันรำข้าว ถ้านำน้ำมันทั้ง 3 ชนิดมาเทียบกัน น้ำมันที่ให้โอเมก้า 3 ได้มากที่สุดก็คือ น้ำมันรำข้าว ซึ่งสามารถเรียงตามเปอร์เซ็นต์ได้ดังนี้
1. น้ำมันรำข้าวมีโอเมก้า 3 = 1.6%
2. น้ำมันงามีโอเมก้า 3 = 0.3%
3. น้ำมันปาล์มมีโอเมก้า 3 = 0.2%
บทส่งท้าย
เนื้อหาทั้งหมดในบทความนี้ คือประโยชน์ของน้ำมันรำข้าว และวิธีใช้อย่างถูกวิธี เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างไรก็ตามคุณควรรับประทานน้ำมันรำข้าวในปริมาณที่พอเหมาะ และเลือกซื้อน้ำมันรำข้าวที่ได้คุณภาพ สีใส ไม่เป็นไข ไม่ตกตะกอน ถ้าคุณต้องการรับประทานน้ำมันรำข้าวเป็นอาหารเสริม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง เพื่อที่แพทย์จะได้แนะนำปริมาณที่เหมาะสมต่อร่างกาย สำหรับผู้ที่กังวลว่าจะเก็บรักษาอย่างไรไม่ให้เกิดกลิ่นหืน เราขอแนะนำเครื่องซีลสุญญากาศจาก SUMIRE ช่วยลดโอกาสการเกิด “ปฏิกิริยาออกซิเดชัน” ป้องกันกลิ่นหืนของน้ำมันทุกชนิดได้เกือบ 100% สนใจสั่งซื้อสินค้าเพียงแอด Line ID : @sumireth
ขอขอบคุณที่มาข้อมูลจาก
- https://hd.co.th/the-benefits-of-rice-bran-oil
- https://www.sanook.com/health/24945/
- https://mgronline.com/daily/detail/9570000035261
- https://women.trueid.net/detail/RQ8VVmoLbvGx
.
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง