5 สูตรขนมจากลูกเกด ทำกินง่าย อร่อยได้ทุกคน

Home » สาระความรู้ทั่วไป » 5 สูตรขนมจากลูกเกด ทำกินง่าย อร่อยได้ทุกคน

5 สูตรขนมจากลูกเกด ทำกินง่าย อร่อยได้ทุกคน

เชื่อว่าหลายคนยังไม่ทราบว่าลูกเกดนั้นก็คือ องุ่นแห้งนั่นเอง ลูกเกดสามารถรับประทานได้ทั้งเปล่า สามารถนำไปประกอบอาหาร การทำขนม รวมไปถึงเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้อีกด้วย เป็นอาหารว่างที่ดีต่อสุขภาพ ทานง่าย ทานเพลิน ใครจะไปรู้ว่าลูกเกดมีสารอาหารที่ให้ประโยชน์ไม่น้อยไปกว่าการทานผักผลไม้เลย วันนี้ สุมาลี จะมาแจกขนมที่ทำจากลูกเกดง่ายๆ แถมอร่อยมากๆอีกด้วย

หัวข้อบทความ

สโคนลูกเกด

ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://cooking.kapook.com

หากใครมีลูกเกดติดบ้านแล้วไม่รู้จะทำอะไร ลองมาทำสโคนลูกเกดกันซักหน่อย วัตถุดิบน้อย ทำง่าย นอกจากจะทำง่ายแล้วยังอร่อยอีกด้วย ไปทำตามกันได้เลย

ส่วนผสม

แป้งเค้ก 350 กรัม
น้ำตาลทราย 40 กรัม
ผงฟู 1 ช้อนชา
เกลือ ¼ ช้อนชา
เนยจืด 85 กรัม
นมถั่วเหลือง 175 กรัม
ลูกเกด 100 กรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง สำหรับทาหน้าขนม

วิธีทำ

นำแป้ง น้ำตาลทราย เกลือ และผงฟูใส่ในชามอ่างผสม คนผสมให้เข้ากันดี
ใส่เนยลงไปผสมกับส่วนผสมของแป้ง นวดผสมให้เข้ากันจนร่วนคล้ายเม็ดทราย
เติมนมถั่วเหลืองใส่เข้าไปในส่วนผสมของแป้ง นวดให้เข้ากันประมาณ 2-3 นาที ใส่ลูกเกดลงไปในแป้ง แล้วนวดให้เข้ากันดี
นำแป้งมาคลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหารแล้วนำไปพักในตู้เย็นประมาณ 30 นาที
ใช้ไม้คลึงแป้งให้หนาประมาณ 2 เซนติเมตร แล้วใช้พิมพ์วงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 เซนติเมตรตัดตัวแป้ง และนำแป้งที่ตัดแล้วไปวางบนถาดที่มีกระดาษรองอบเตรียมไว้
นำไข่ไก่ที่เตรียมไว้ทาที่หน้าตัวแป้งก่อนอบ
นำขนมเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส อบประมาณ 15-18 นาที หรือจนขนมสุก

คุกกี้ลูกเกด

ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://www.thairath.co.th

ใครที่เบื่อคุกกี้แบบเดิม ๆ ลองมาทำคุกกี้ลูกเกดกันซักหน่อย เพิ่มเติมความอร่อยและประโยชน์ด้วยลูกเกด ต้องอร่อยติดใจอย่างแน่นอน

ส่วนผสม

แป้งสาลีอเนกประสงค์ 250 กรัม
เนยสดชนิดเค็มหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก 225 กรัม
ผงฟู 2 ช้อนชา
เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
ลูกเกดดำและเหลืองสับหยาบ 200 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 180 กรัม
เกลือป่น ¼ ช้อนชา
นมข้นจืด 3 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ 1 ฟอง
วานิลลาชนิดผง 1 ช้อนชา
เนยขาว (ชนิดไร้ไขมันทรานส์) สำหรับทาถาด

วิธีทำ

เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ ทาเนยขาว (ชนิดไร้ไขมันทรานส์) ทาบางๆให้ทั่วถาด เตรียมไว้
ร่อนแป้ง ผงฟู เบกกิ้งโซดา และวานิลลาเข้าด้วยกัน จากนั้นใส่ลูกเกดลงเคล้าพอเข้ากัน พักไว้
ใส่เนยสดลงในเครื่องผสมไฟฟ้า ใช้หัวตีรูปใบไม้ ตีด้วยความเร็วปานกลางจนอ่อนตัว ใส่น้ำตาลไอซิ่ง และเกลือลงตีจนขึ้นฟู แล้วจึงใส่ไข่ไก่ลงตีให้เข้ากัน
ลดความเร็วลงต่ำสุด ใส่แป้งสลับกับนมข้นจืด (แบ่งแป้งเป็น 3 ส่วน นมข้นจืด 2 ส่วน เริ่มใส่แป้งก่อน) จากนั้นผสมพอเข้ากัน ปิดเครื่อง
ปั้นคุกกี้เป็นก้อนกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ประมาณ 5 นิ้ว วางลงบนถาดโดยเว้นระยะห่าง ประมาณ 1 นิ้ว กดให้แบนเล็กน้อย
นำเข้าอบประมาณ 20 นาทีหรือจนสุกเหลือง แล้วจึงนำออกจากเตา แซะออกจากถาด วางพักให้เย็นบนตะแกรง เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

ขนมปังลูกเกด

ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://www.pholfoodmafia.com

หลายคนต้องรู้จักกับเมนูนี้และต้องเคยรับประทานอย่างแน่นอน เป็นเมนูที่อิ่มท้องสุดๆ ทำทานตอนเช้าคู่กับกาแฟ อยู่ท้องได้ยาวเลยหล่ะ

ส่วนผสม

น้ำอุ่น125 กรัม
น้ำตาลทราย55 กรัม
ยีสต์แห้ง1 ช้อนโต๊ะ
เนย30 กรัม
ชอร์ตเทนนิงน้ำมันรำข้าว60 กรัม
นมสด250 กรัม
ไข่ไก่1 ฟอง
เกลือ1 ช้อนชา
แป้งสาลีอเนกประสงค์580 กรัม + สำหรับนวล
ลูกเกดสีทอง100 กรัม
ลูกเกดสีดำ100 กรัม
ไข่ไก่สำหรับทาหน้าขนมปัง

วิธีทำ

นำยีสต์ น้ำอุ่น และน้ำตาลทรายใส่ในโถของเครื่องผสมอาหาร พักไว้ประมาณ 5-10 นาที
ใส่แป้งสาลี เกลือ ไข่ไก่ และนมสดลงไป ใช้หัวตีตะขอ นวดให้พอเข้ากัน ใส่เนยและชอร์ตเทนนิ่งน้ำมันรำข้าวลงไป นวดส่วนผสมให้เข้ากันดี ใส่ลูกเกดลงไป นวดต่อแค่พอให้กระจายดี
คลึงแป้งให้เนียนดี สามารถใช้แป้งนวลได้เล็กน้อย ใส่ชามผสม คลุมด้วยฟิลม์ถนอมอาหาร พักในที่อุ่นๆ ให้ขึ้นตัวประมาณ 1 ชั่วโมง
เตรียมถาดอบขนาด 9×13 นิ้ว ทาชอร์ตเทนนิ่งให้ทั่วดี ตบไล่อากาศออกจากโด แล้วแบ่งโดออกเป็น 12 ส่วนเท่าๆ กัน คลึงเป็นก้อนกลม จัดวางเรียงลงในถาดที่เตรียมไว้ แถวละ 3 ชิ้น จำนวน 4 แถว คลุมหน้าหลวมๆ ด้วยฟิลม์ถนอมอาหาร ให้ขึ้นตัวอีกครั้ง ประมาณ 30 นาที
เปิดเตาอบที่ 190 องศาเซลเซียส ตอกไข่ที่เหลือ ตีและกรองให้เนียน ทาไข่บางๆ บนขนมปัง นำเข้าอบเป็นเวลา 25 นาที พักให้พอเย็นลง พร้อมรับประทาน

เดนิชลูกเกด

ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://cooking.kapook.com

ลองมาทำเดนิชกรอบนอก นุ่มใน หอมอร่อยไปกับลูกเกด เข้ากันได้อย่างลงตัว นอกจากจะใช้ลูกเกดแล้วก็ยังสามารถเพิ่มเติมผลไม้อื่นได้อีกด้วยนะ

ส่วนผสม

แป้งขนมปัง หรือแป้งสาลีอเนกประสงค์ 600 กรัม
เนยเพสตรีมาการีน 325 กรัม
เนยจืด อุณหภูมิห้อง 80 กรัม (ใส่ตอนตีแป้ง)
น้ำตาลทราย 80 กรัม
น้ำเย็น 155 กรัม
เกลือ 1 ช้อนชา
ยีสต์ 11 กรัม
นมเย็น 150 กรัม
น้ำตาลทรายสีรำ ½ ถ้วยตวง
ลูกเกดตามชอบ
เนยละลาย
ไข่แดง
แยมผลไม้ 3 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

นำแป้งครัวซองต์มารีดให้เป็นแผ่น รีดให้ได้ความหนาประมาณ 3-4 มิลลิเมตร
ทาเนยละลาย โรยน้ำตาลทราย ใส่ลูกเกด
ม้วนให้แน่น ตัดให้ได้ความกว้างประมาณ 5-2 เซนติเมตร
วางลงในพิมพ์ กดให้แบนลง พักให้ขึ้นฟูประมาณ 30 นาที -1 ชั่วโมง หรือจนแป้งฟูขึ้นมา 5-2 เท่า
พอแป้งฟูได้ที่แล้วก็ทาไข่ให้ทั่วก่อนนำไปอบ
อบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ประมาณ 15-20 นาที
พออบเสร็จแล้ว นำแยมผลไม้ผสมกับน้ำเล็กน้อยเข้าไมโครเวฟ ประมาณ 1-2 นาที คนจนละลายเข้ากัน แล้วนำมาทาหน้าขนม

พุดเด้งขนมปังลูกเกด

ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://www.fnthaidairies.com

ใครที่ยังไม่รู้จักกับเมนูนี้ แนะนำให้ทำตามเป็นอย่างมาก ขนมปังฟู ชุ่มฉ่ำ หอมเนียนนุ่ม นอกจากจะมีลูกเกดแล้วยังท็อปด้วยราสเบอร์รี น่าทานสุดๆเลยหล่ะ

ส่วนผสม

ขนมปัง
เนยเค็ม (สำหรับทาขนมปังและทาพิมพ์)
ลูกเกด 100 กรัม (สามารถเลือกใช้ลูกเกดแช่เหล้ารัมหรือลูกเกดแช่น้ำอุ่นก็ได้)
วิปปิ้งครีม 250 กรัม
นมข้นจืดคาร์เนชัน 100 กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
น้ำตาลทราย 30 กรัม
น้ำตาลทรายแดง 30 กรัม
ผงอบเชย 1 ช้อนชา
กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
น้ำตาลไอซิ่งสำหรับตกแต่ง
ราสเบอร์รีสำหรับตกแต่ง
ใบสะระแหน่สำหรับตกแต่ง

วิธีทำ

ทาเนยบนขนมปังและมาหั่นเป็นชิ้น ๆ ตามชอบ จากนั้นนำขนมปังใส่ภาชนะที่ทาเนยรอไว้ ใส่ลูกเกดลงไปให้ทั่ว ๆ (ลูกเกดต้องสะเด็ดน้ำ)
ในส่วนของครีม ผสมทุกอย่างรวมกัน คนพอเข้ากัน จากนั้นนำเทลงบนขนมปังที่ใส่พิมพ์รอไว้
ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ให้ขนมปังดูดครีมได้เต็มที่
นำเข้าอบด้วยความร้อน 170 องศา ไฟบนล่าง นาน 35-45 นาที
เมื่อขนมสุกดี พักให้พอเย็น และนำมาตกแต่งด้วยน้ำตาลไอซิ่ง ราสเบอร์รีและใบสะระแหน่

บทส่งท้าย

เป็นอย่างไรกันบ้างกับสูตรขนมจากลูกเกดที่ทาง สุมาลี ได้มาแจกทุกคนในวันนี้ แต่ละเมนูน่าทานมากเลยใช่ไหม แถมเป็นเมนูที่คู่กับลูกเกดได้ดีมากๆอีกด้วย และถ้าไม่อยากให้ลูกเกดมีกลิ่นหรือเสียไว สุมาลี มีของดีมาฝาก เครื่องซีลสุญญากาศจาก สุมาลี ที่สามารถซีลอาหารได้ทุกรูปแบบ สามารถถนอมอาหารให้อยู่ได้นานและไม่ส่งกลิ่นในตู้เย็นอีกด้วย หากท่านใดสนใจสั่งซื้อสินค้าหรือสอบถามข้อมูล ก็สามารถ แอดไลน์ @sumireth ได้เลย

ขอขอบคุณที่มาข้อมูล

บทความที่เกี่ยวข้อง