fbpx

พาร์มาแฮม วัตถุดิบยอดฮิต ทานกับอะไรก็อร่อย

ใครที่ชอบทานอาหารอิตาเลียนคงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้จักแฮมชนิดนี้ เพราะเป็นแฮมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสุดๆ แม้กระทั่งวิธีทานก็เป็นการที่ค่อนข้างมีลักษณะเฉาะตัว เพราะแฮมชนิดนี้สามารถทานดิบได้ หลายๆคนคงจะสงสัยใช่ไหมหล่ะว่าแฮมจะสามารถทานดิบได้อย่างไร ถ้าอยากรู้แล้วไปดูพร้อมๆกันได้เลย

 

วิธีการผลิตแฮม

  • การบ่มแบบแห้งเป็นการทำแฮม โดยการบ่มหมูดิบด้วย การหมักเกลือ
  • การบ่มแบบเปียก หรือการบรินนิ่ง (Brining ) เป็นการบ่มแบบเปียก โดยทำการรักษาอาหารที่มีน้ำ หรือเกลือหยาบไว้ และอาจมีการเพิ่มความนุ่ม หรือรสชาติเพิ่มเติมด้วยการใส่ สมุนไพร, เครื่องเทศ, น้ำตาล, คาราเมล หรือ น้ำส้มสายชูได้ ซึ่งวิธีนี้ จะทำการหมักดอง เป็นเวลาน้อยกว่า 24 ชั่วโมง
  • การรมควัน (Smoking ) เป็นการนำเนื้อสัตว์มาผ่าน กระบวนการปรุงแต่งกลิ่นรสเพิ่มเติม และเก็บรักษาเนื้อสัตว์ โดยการปล่อยให้เนื้อสัตว์ ได้รับควันจากวัสดุที่เผาไหม้ หรือระอุ ซึ่งกระบวนการนี้ เป็นวิธีการทำแฮมที่มีความนิยมมากขึ้น โดยแฮมที่ถูกทำจากกระบวนการนี้ จะถูกเรียกว่า สโมคแฮม ( Smoked Ham ) หรือ แฮมรมควัน

 

พาร์มาแฮม คืออะไร

พาร์มาแฮม ( Parma Ham ) หรือในภาษาอิตาเลียน คือ Prosciutto di Parma เป็นแฮมจากเมือง พาร์มา อยู่ในแคว้น Emilia-Romagna ทางตอนเหนือของ ประเทศอิตาลี ซึ่งมีอากาศค่อนข้างหนาว คนในสมัยโบราณ นิยมทำกัน เพื่อถนอมอาหาร ให้มีไว้รับประทาน สำหรับในช่วงฤดูหนาว โดยวิธีการ ถนอมอาหาร รูปแบบนี้ ถูกเรียกว่า Prosciutto นับได้ว่าาเป็นภูมิปัญญา ในการถนอมอาหาร ที่เก่าแก่ และมีการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมานาน

 

ความพิเศษของพาร์มาแฮม

  • การใช้เนื้อหมูในการทำ พาร์มาแฮม( Parma Ham ) จะต้องใช้ส่วน ขาหลังขาหมู เท่านั้น โดยหมูจะต้องมีอายุ ระหว่าง 9 – 12 เดือน และมีน้ำหนัก ประมาณ 10 กิโลกรัม เมื่อหมูผ่านเกณฑ์ จึงนำเนื้อหมูส่วนขาหลัง มาหมักเกลือทิ้งไว้ ประมาณ 2 เดือน เพื่อดูดความชื้น และทำให้เนื้อหมูมีรสเค็ม เนื้อหมูที่ถูกเกลือค่อย ๆ แทรกซึม จะเริ่มมีสีชมพูอ่อน
  • หลังจากครบเวลาในการหมัก จะทำการล้างทำความสะอาดเกลือออก หลายครั้ง เพื่อให้เกลือออกหมด จากนั้น นำขาหมูไปบ่ม หรือแขวนให้แห้ง เป็นเวลา 10 – 12 เดือน จนขาหมูแห้ง และน้ำหนักเริ่มหายไป จึงสามารถนำมารับประทานได้แบบดิบ โดยระยะเวลาในการบ่ม จะขึ้นอยู่กับผู้ผลิตแต่ละราย หากบ่มนาน ก็จะยิ่งมีราคาแพงขึ้น
  • สำหรับ รสชาติของ พาร์มาแฮม ( แบบดิบ ) จะมีรสหวานนิด ๆ และมีกลิ่นหอม พาร์มาฉอม เป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง มีแคลอรีต่ำ และอุดมไปด้วย กรดโอเลอิก ซึ่งเป็นไขมันโอเมก้า 9 ที่ดีต่อสุขภาพของ ผู้รับประทานอีกด้วย
  • ความพิเศษอีกหนึ่งอย่างของ พาร์มาแฮม คือ ความเข้มงวดของ สมาคมที่ดูแล เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้ ที่ได้มีข้อกำหนด ไม่อนุญาตให้ใช้ สารเคมี สารแต่งสี สารกันบูด หรือสารแต่งเติมอื่น ๆ ให้ใช้ เกลือ ในการผลิตเท่านั้น รวมไปถึง ห้ามการนำอมรมควัน หรือแช่แข็ง พาร์มาแฮม จึงถือได้ว่าเป็น ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติแบบ 100%

 

รสชาติของพาร์มาแฮม

พาร์มาแฮมมีกลิ่นหอม มีรสชาติเฉพาะตัว และเค็มน้อย พาร์มาแฮมต่างจากแฮมชนิดอื่น กล่าวคือ วัตถุดิบของพาร์มาแฮมคือเนื้อหมูกับเกลือเท่านั้น ไม่ใช้สารเติมแต่ง เช่น สารแต่งสี สารกันเสียอย่างไนไตรตและไนเตรต ซึ่งโดยปกติใช้ในเนื้อแปรรูป

 

พาร์มาแฮมทานกับอะไร

พาร์มาแฮมกินอร่อยได้โดยไม่ต้องเข้าคู่กับใคร นอกจากไวน์แดงและละเลียดกินไปเรื่อย ๆ ซึ่งจะเสิร์ฟมาในจานที่เรียกว่า cold cut เป็นอาหารเรียกน้ำย่อย แต่ถ้าอยากเข้าคู่ก็เหมาะกับหน่อไม้ฝรั่งสีขาวต้นอวบแน่นมีพาร์มาแฮมพันคู่กันมา หรือแคนคาลูปรสหวานชุ่มฉ่ำแช่เย็นๆ พันพาร์มาแฮม กินในฤดูร้อน รสชาติเข้ากันอย่างเพอร์เฟ็คที่สุด

 

บทส่งท้าย

เป็นอย่างไรกันบ้างเมื่อได้รู้ว่าพาร์มาแฮมมีกรรมวิธีการทำอย่างไร ตกใจเลยใช่ไหมหล่ะ เพราะการทำแต่ละขั้นตอนนั้นถือว่าไม่ง่ายเลยหล่ะ ต้องผ่านการบ่ม การรมควันต่างๆมากมาย กว่าจะออกมาเป็นแฮมที่มีรสชาติอร่อยได้ วัตถุดิบที่สุดพิเศษขนาดนี้ ก็ควรเก็บรักษาอย่างดี หากมีเครื่องซีลสุญญากาศดีๆซักเครื่อง ก็จะหมดกังวลการเน่าเสียไปได้เลย แถมสามารถถนอมอาหารให้อยู่ได้นานมากขึ้นอีกด้วยนะ หากสนใจเครื่องซีลสุญญากาศ สามารถทักสอบถามข้อมูลได้ที่ไลน์ @sumireth ได้เลย

 

 

ขอขอบคุณที่มาข้อมูล

บทความที่เกี่ยวข้อง