มาเอาใจสายคนชอบทานอาหารจีนกันหน่อย หากใครที่เบื่อการทานหม่าล่าแล้วอยากลองทานเมนูใหม่ๆของประเทศจีน วันนี้ สุมาลี จึงนำเมนูอาหารสุดเด็ดจากจีนที่เหมือนได้ทานจากต้นตำรับ มาแจกให้ทุกคนได้ลองทำตามและลิ้มลองไปด้วยกัน พร้อมแล้วไปดูกันเลย
หัวข้อบทความ
Toggleเสี่ยวหลงเปา
ใครที่เคยได้ทานติ่มซำและได้ลิ้มลองเสี่ยวหลงเปานั้น บอกเลยว่าใครๆก็ต้องติดใจจนลืมรสชาติไม่ลง ฉะนั้นเราลองมาทำตามกันหน่อยดีกว่า
ส่วนผสม
- แป้งขนมปัง 100 กรัม
- แป้งสาลีตรา บัวแดง 150 กรัม
- น้ำอุ่น 140 กรัม
- น้ำมันพืช 20 กรัม
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ สำหรับทำแป้งนวล
- หมูบดติดมัน 400 กรัม
- เกลือสมุทร ½ ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
- พริกไทยขาวป่น ½ ช้อนชา
- น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ+1 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะ +1 ช้อนชา
- ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
- ขิงขูด 1 ช้อนชา
- ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำซุปแช่เย็นเป็นวุ้นสับละเอียด 300 กรัม
- หนังหมู 200 กรัม
- โครงไก่ลอกหนัง 500 กรัม
- กระดูกหมูเอียวเล้ง 500 กรัม
- น้ำ 5 ลิตร
- ต้นหอม 2 ต้น
- ขิงหั่นแว่น 4 แว่น
- เกลือสมุทร 1 ช้อนชา
- เหล้าจีน 2 ช้อนโต๊ะ
- เจลลาตินผง 60 กรัม
- น้ำเย็น 300 กรัม
- น้ำมันพืชสำหรับทอดกระดูก
- จิ๊กโฉ่วและขิงซอยสำหรับจัดเสิร์ฟ
- อุปกรณ์จำเป็น ลังถึง ไม้คลึง ผ้าขาวบาง เข่งไม้ไผ่
วิธีทำ
- ทำน้ำซุปหมูโดย ล้างหนังหมู โครงไก่ และกระดูกเอียวเล้งให้สะอาด แช่ในน้ำประมาณ 10 นาทีเพื่อล้างเลือด เทน้ำออก พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ นำหนังหมูไปต้มประมาณ 5 นาทีจนสุก แช่ในน้ำเย็น หั่นหนังหมูเป็นชิ้นเล็ก เตรียมไว้
- ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟแรง พอร้อน ตักน้ำมันราดโครงไก่ กระดูกหมูเอี่ยวเล้ง และหนังหมู ให้ทั่ว ราดจนผิวด้านนอกตึงตัวพอสุก พักไว้บนตะแกรง ใส่ขิงและต้มหอมลงผัดในน้ำมันให้พอสลด ตักขึ้น พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
- ตั้งหม้อน้ำบนไฟกลาง ใส่โครงไก่ กระดูกหมูเอี่ยวเล้ง หนังหมู ต้นหอม ขิง เกลือสมุทรเเละเหล้าจีนลงต้ม พอเดือด ลดไฟลงต้มนาน 2 ชั่วโมง ระหว่างต้มหมั่นช้อนฟองและไขมันที่ลอยหน้าออกเรื่อยๆ ต้มจนเหลือน้ำซุปประมาณ 5 ลิตร กรองเอากากออก พักไว้ บลูมเจลลาติน โดยผสมน้ำเย็นกับเจลลาตินผงให้เข้ากัน พักไว้ 10 นาที ใส่ส่วนผสมเจลลาตินที่อิ่มตัวแล้วลงในน้ำซุป คนให้ละลาย นำน้ำซุปแช่ตู้เย็นช่องธรรมดานาน 1 ชั่วโมงหรือจนเซ็ตตัวเป็นวุ้น นำวุ้นน้ำซุปมาสับละเอียด เตรียมไว้
- ทำแป้งเสี่ยวหลงเปาโดย ผสมแป้งขนมปัง แป้งสาลีบัวแดงเข้าด้วยกัน ค่อยๆใส่น้ำอุ่น นวดจนแป้งเข้ากัน ใส่น้ำมันทีละน้อย นวดจนแป้งนุ่มเนียน พักแป้งไว้นาน 20 นาที ระหว่างรอ ทำไส้หมูสับโดยผสมหมูบด เกลือสมุทร น้ำตาลทราย พริกไทยขาว น้ำมันงา ซีอิ๊วขาว เหล้าจีน ซอสหอยนางรม ขิงขูดและต้นหอมเข้าด้วยกันในอ่างผสม นวดจนส่วนผสมเหนียวจับตัวกัน ใส่วุ้นน้ำซุป และหมูสับละเอียด ผสมให้เข้ากัน พักไว้ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที
- ห่อเสี่ยวหลงเปาโดยเด็ดแป้งเป็นก้อนเล็กๆ ก้อนละ 8 กรัม คลุมด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำหมาดๆเพื่อไม่ให้แป้งแห้ง โรยแป้งนวลบนโต๊ะ ใช้ฝ่ามือกดแป้งให้แบน ใช้ไม้คลึงรีดแป้งจากขอบเข้าตรงกลาง พร้อมกับหมุนแป้ง ทำเช่นนี้จนได้เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 นิ้ว (ให้มีลักษณะริมบางกลางหนา) ตักไส้ใส่ประมาณ 15 กรัม ห่อจับจีบโดยใช้มือซ้ายถือแป้ง ใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งขวาจับแป้งขึ้นนเป็นจีบถี่ ๆ ส่วนนิ้วโป้งซ้ายหมั่นกดไส้ลง หมุนมือไปเรื่อย ๆ จนจีบมาชนกัน ทำจนหมดไส้ คลุมเสี่ยวหลงเปาด้วยผ้าขาวบาง พักไว้
- ตั้งหม้อน้ำลังถึงบนไฟกลางค่อนแรง เรียงเสี่ยวหลงเปาลงในเข่งไม้ไผ่ที่รองด้วยกระดาษไข เตรียมไว้ พอน้ำเดือด นำเสี่ยวหลงเปาลงนึ่งนาน 10 นาทีจนสุก
- เสิร์ฟเสี่ยวหลงเปาทันทีพร้อมจิ๊กโฉ่ใส่ขิงซอย
ซุปเสฉวน
ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://www.pholfoodmafia.com
ซุปรสเปรี้ยวเผ็ดร้อน ที่ใครได้ทานก็ต้องติดใจอย่างแน่นอน และสำหรับใครที่ยังไม่เคยทานก็อยากให้ลองทำตาม และลองลิ้มรสชาติซักครั้ง
ส่วนผสม
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- ขิงสับหยาบ 1-2 ช้อนชา
- เห็ดหูหนูหั่นเส้นบาง 30 กรัม
- เห็ดหอมสดหั่นเส้นบาง 3 ดอก
- หน่อไม้หั่นเส้น 50 กรัม
- ดอกไม้จีนแช่น้ำอุ่น สะเด็ดน้ำแล้วผูกเงื่อน 40 กรัม
- น้ำดาชิ 4 ถ้วย
- เหล้าจีน ½ ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
- ซีอิ๊วญี่ปุ่นฝาเขียว (เค็มน้อย) 1 ช้อนชา
- เกลือ ปริมาณตามชอบ
- พริกไทยขาวป่นใหม่ ½ – 1tsp
- เต้าหู้นิ่ม (คินุ) ¾ ก้อน หั่นแท่งยาว 1½ นิ้ว
- แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำ 4 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ 1 ฟอง
- น้ำส้มซินเกียง (น้ำส้มสายชูดำ) 1½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันงาคั่ว
- ผักชีซอย 2 ช้อนโต๊ะ สำหรับโรยหน้า
วิธีทำ
- ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันพืช ร้อนแล้วใส่ขิงสับลงผัดให้หอม ตามด้วยเห็ดหอม เห็ดหูหนู หน่อไม้ ดอกไม้จีน ผัดด้วยไฟแรงพอสุกหอม แล้วใส่น้ำดาชิ ตั้งไฟจนเดือด ตักฟองออก ปรุงรสโดยใส่เหล้าจีน ซีอิ๊ว เกลือ และพริกไทย หากต้องการน้ำซุปสีเข้ม เติมซีอิ๊วญี่ปุ่นได้ แต่ไม่มากจนกลิ่นซีอิ๊วโดดเด่น ชิมให้ได้รสเค็มและเผ็ดร้อนพริกไทยพอดี
- ใส่เต้าหู้ คนเบา ๆ ให้เข้ากัน ค่อยเทน้ำแป้งข้าวโพดลงผส คนให้แป้งสุกข้นเหนียวทั่ว จากนี้หาใส่ไข่โรยเป็นเส้นบางลงกระทะ รอไข่สุกลอยขึ้นแล้วคนวนเบาให้ทั่ว ใส่น้ำส้มสายชูดำ ชิมให้ได้รสเปรี้ยวพอดี ตักเสิร์ฟ โรยหน้าด้วยผักชีซอย เหยาะน้ำมันงาเล็กน้อย
ไก่ผัดเปรี้ยวหวาน
ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://www.pholfoodmafia.com
เมนูที่ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีน เราอาจจะคุ้นๆกับชื่อเมนูนี้ เราลองมาทำตามสูตรนี้กันซักหน่อย บอกเลยอร่อยเด็ด จะทำเนื้อสัตว์อื่นมาแทนก็ได้นะ
ส่วนผสม
- น้ำมันรำข้าว 2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียม (โขลก) 1 ช้อนโต๊ะ
- อกไก่ (หั่นชิ้น) 150 กรัม
- น้ำสะอาด 4 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 1 ½ ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว1 ½ ช้อนชา
- ซอสปรุงรส 1 ½ ช้อนชา
- ซอสพริก 1 ½ ช้อนโต๊ะ
- ซอสมะเขือเทศ 1 ½ ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยขาวป่นปรุงรส
- พริกหวานสามสี (เต๋า) 70 กรัม
- หอมใหญ่ (เต๋า) 40 กรัม
- มะเขือเทศ (หั่นเต๋าควักไส้) 50 กรัม
- แตงกวา (หั่นชิ้นควักไส้) 40 กรัม
- สับปะรด (หั่นชิ้น) 60 กรัม
- ต้นหอม (หั่นท่อน) 2 ต้น
วิธีทำ
- ริ้วแตงกวา แล้วผ่าเป็นสี่ส่วน คว้านส่วนของไส้ออกเล็กน้อย หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ หั่นมะเขือเทศเป็นชิ้นพอดีคำ และควักไส้ออกเช่นกัน
- ผัดกระเทียมกับน้ำมันรำข้าว ตามด้วยไก่ ผัดจนไก่สุกดี เติมน้ำสะอาดลงไป
- ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ และพริกไทย
- เคี่ยวจนซอสข้นขึ้นเล็กน้อย ใส่พริกหวานสามสี หอมใหญ่ มะเขือเทศ แตงกวา และสับปะรด ผัดต่อเล็กน้อย
- ใส่ต้นหอมแล้วยกออกจากความร้อน ตักใส่จานเสิร์ฟ
ผัดโป๊ยเซียน
ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://www.knorr.com
สำหรับใครที่ชอบทานอาหารเจและกำลังมองหาเมนูว่าอยากรับประทานอะไร เราขอแนะนำเมนูนี้เลย สามารถทำตามได้ง่ายๆ รสชาติอร่อยเด็ด
ส่วนผสม
- หมี่กึง ½ ถ้วย
- เต้าหู้ขาว ½ ถ้วย
- ผักกาดขาว ½ ถ้วย
- ผักบุ้ง ½ ถ้วย
- แครอตหั่นแว่นบาง ½ ถ้วย
- ข้าวโพดอ่อน ½ ถ้วย
- เห็ดฟาง ½ ถ้วย
- ถั่วลันเตา 100 กรัม
- วุ้นเส้น ½ ถ้วย
- ซอสเห็ดหอมเจ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- ถั่วงอก ½ ถ้วย
วิธีทำ
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ใส่หมี่กึงและเต้าหู้ขาวลงไปผัด ตามด้วยผักกาดขาว ผักบุ้ง แครอต ข้าวโพดอ่อน ถั่วลันเตา วุ้นเส้น และเห็ดฟางลงไปผัดพอสุก
- ใส่วุ้นเส้นลงไปผัดให้นิ่ม ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซอสเห็ดหอมเจ และน้ำตาลทราย จากนั้นนำถั่วงอกลงไปผัดให้เข้ากัน ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
บทส่งท้าย
จบกันไปแล้วกับเมนูอาหารจีน เชื่อว่าใครที่ชื่นชอบการทานอาหารจีนต้องถูกใจเมนูที่เรายกมาอย่างแน่นอน แถมได้ทำตามรสชาติฝีมือเราอีกด้วยนะ วันนี้ สุมาลี ต้องขอตัวลาไปก่อน เจอกันใหม่ในบทความหน้า หากท่านใดสนใจติดตามร้าน สุมาลี สามารถแอดไลน์ @sumireth ได้เลย
ขอขอบคุณที่มาข้อมูล
บทความที่เกี่ยวข้อง