สายชอบของเปรี้ยว ต้องถูกใจสิ่งนี้ นั่นก็คือ ‘ผลไม้ดอง’ นั่นเอง วันนี้ SUMIRE มาแจกสูตรกันอีกแล้ว สำหรับใครที่ชื่นชอบ ผลไม้ดอง จะทำกินเองที่บ้านก็ได้ หรือจะทำขายก็เป็นรายได้เสริมที่ดีอีกทางนึง งั้นเรามาดูกันเลยดีกว่า กับ “ 6 สูตรทำผลไม้ดอง ทำขายสร้างรายได้เสริม ”
หัวข้อบทความ
Toggleการดอง คืออะไร
การดอง คือการนำอาหารไปแช่ในน้ำเกลือที่มีค่าเป็นกรดหรือน้ำส้มสายชู เพื่อให้มีรสเค็มหรือรสเปรี้ยว ซึ่งจะช่วยยืดอายุอาหาร และเป็นการถนอมอาหารที่ใช้เวลาสั้นกว่า เช่น การดองไข่เค็ม (ที่หลายคนน่าจะเคยทดลองทำสมัยเรียนชั้นประถมฯ) หรือผักดองบางชนิด โดยการดองยังแบ่งแยกย่อยได้เป็น การดองเปรี้ยว ที่ใช้น้ำเกลือและน้ำส้มสายชูเป็นหลัก เช่น การทำกะหล่ำปลีหรือผักกาดดอง การดองเค็ม จะเน้นความเค็มของเกลือมากกว่า และใช้เวลานานกว่าการดองประเภทอื่นๆ เช่น การทำไข่เค็ม ปลาเค็ม การดองหวาน ใช้น้ำตาลและน้ำส้มสายชู รสจะออกเปรี้ยวนำหวานตาม เช่น การทำแตงกวาดอง แครอตดอง และการดอง 3 รส ซึ่งจะใส่เกลือ น้ำส้มสายชู และน้ำตาลเพื่อให้มีรสเปรี้ยว เค็ม และหวานครบรส เช่น ขิงดอง กระเทียมดอง เครื่องเคียงเหล่านี้ต่างได้รับความนิยมและมักอยู่บนโต๊ะอาหารของผู้คนหลากหลายชนชาติทั่วโลก
ประโยชน์จาก ‘ผลไม้ดอง’
- เพิ่มแบคทีเรียที่จำเป็นให้ร่างกาย
ข้อดีอย่างแรกของอาหารหมักดองก็คือ ในอาหารหมักดองนั้นจะมีแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์อยู่ค่อนข้างมาก ซึ่งการรับประทานอาหารหมักดองเข้าไปบ้าง ก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับแบคทีเรียที่จำเป็นเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น ซึ่งแบคทีเรียที่ว่านี้ก็คือ Lactobacillus Acidophilus โดยประโยชน์ของเจ้าแบคทีเรียชนิดนี้ก็คือ ช่วยในการทำความสะอาดลำไส้ ช่วยย่อยอาหาร และผลิตวิตามินบางชนิดที่เป็นประโยชน์ให้กับร่างกาย แถมลำไส้ก็จะลื่นและไม่ทำให้แบคทีเรียที่เป็นอันตรายยึดเกาะได้ง่าย
- มีวิตามินที่จำเป็น
ในอาหารหมักดองบางชนิด มักจะมีวิตามินที่จำเป็นกับร่างกายอยู่มาก เช่น วิตามินบี 12 ที่มักจะพบได้ในอาการหมักดองในกลุ่มพืชตระกูลถั่วเหลือง เช่น ถั่วเน่า เต้าหู้ยี้ เต้าเจี้ยว เป็นต้น นอกจากนี้ ในอาหารหมักดองบางขนิดอย่าง ปลาร้า ก็ยังมีสารอาหารที่จำเป็นอย่าง วิตามินซี โปรตีน คาร์โบไฮเดรด แคลเซียม และไขมัน ซึ่งในบางตำราก็มีการพูดถึงวิธีการหมักดองที่ถูกวิธีของปลาร้านั้นจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีผลต่อเลือด และสมองอย่าง โอเมก้า 3 อีกด้วย ใครที่ชอบทานปลาร้า ก็คงจะกินกันได้อร่อยขึ้นแล้วล่ะ เพราะอาหารชนิดนี้มีประโยชน์มากกว่าที่คิดเสียอีก
- ได้รับโปรไบโอติกส์
โปรไบโอติกส์ (Probiotics) คือจุลินทรีย์ที่ถือได้ว่ามีประโยชน์กับร่างกายของมนุษย์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของลำไส้ เช่นเดียวกับแบคทีเรียที่จำเป็น แต่จุลินทรีย์ชนิดนี้จะเข้าไปเจริญเติบโตอยู่ในลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ โดยจะช่วยลดจำนวนของเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายให้ลดน้อยลงได้ ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้เป็นปกติมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ก็ยังช่วยในการผลิตเอนไซม์ที่จำเป็นต่อการย่อยนมอย่างแลคเตส เหมาะสำหรับคนที่ชอบดื่มนมแล้วมีอาการท้องอืดอยู่เป็นประจำ
- ช่วยแก้อาการมึนงง
ใครที่เคยเวียนหัว หรือมีอาการเบลอๆ มึนงง อาจจะเพราะแฮงก์จากปาร์ตี้ข้ามคืนที่หนักหน่วง หรือจะเป็นเพราะอาการเมาเรือ เมารถก็ตาม อาการเหล่านี้จะสามารถบรรเทาลงได้ด้วยการรับประทานอาการหมักดอง ซึ่งอาหารหมักดองที่สามารถแก้อาการต่างๆ นี้ ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบของอาหารที่ทานได้ง่าย เช่น ผลไม้หมักดอง บ๊วย หรือ กิมจิ เป็นต้น โดยหลังจากที่รับประทานไปแล้ว ร่างกายจะรู้สึกตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า และร่าเริงขึ้นได้ ช่วยให้หายจากอาการมึนงง เบลอ หรือแฮงก์ได้ดีทีเดียว
- นำไปใช้ประกอบอาหารได้ง่าย (แถมอร่อย)
ประโยชน์ข้อสุดท้ายที่เรียกได้ว่าหลายคนชื่นชอบก็คือ สามารถที่จะนำไปใช้ประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เพราะอาหารหมักดองหลายๆ ประเภทก็เป็นวัตถุดิบชั้นยอดที่จะช่วยให้เมนูนั้นๆ อร่อยขึ้น เช่น ปลาร้า ที่สามารถนำไปใช้ประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้ง ส้มตำ แกงอ่อม และอื่นๆ อีกมากมาย หรืออย่าง เต้าเจี้ยว กิมจิ ก็นำไปใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารที่ใช้ผัด ใช้ต้มได้ ซึ่งแน่นอนว่า นอกจากอร่อยแล้ว ก็ยังได้ประโยชน์กับสุขภาพอีกด้วย
ผลไม้ดองมีผลเสียไหม
1.ในอาหารหมักดองมีเกลือโซเดียมสูง บางครั้งอาจสูงกว่าในอาหารสดถึง 10 เท่า การทานเป็นประจำจึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง และโรคไต อีกทั้งทำให้ร่างกายดูบวมฉุ โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า แขน ขา ข้อมือ ข้อเท้า อีกด้วย
2.ทำให้ผิวพรรณแห้งเหี่ยว ขาดน้ำ จากการที่โซเดียมในเลือดเพิ่มขึ้น จึงมีการดึงน้ำออกจากเซลล์ผิวหนัง คนที่ทานอาหารดองมากๆ ผิวพรรณจึงหมองคล้ำ ไม่สดใสเปล่งปลั่ง
3.ไม่มีคุณค่าทางอาหารมากเท่ากับอาหารสด เนื่องจากการถูกเก็บไว้นานและแช่ในน้ำเกลือ จึงทำให้วิตามิน และเกลือแร่ต่างๆ ถูกชะล้างไปเกือบหมด
4.ในอาหารหมักดอง อาจมีสารกันเสียและสีผสมอาหาร ที่ใส่มาเพื่อยืดอายุให้อาหารและทำให้สีสันน่าทานมากขึ้น ซึ่งหากทานเป็นประจำ สารเหล่านี้อาจสะสมในร่างกายและเป็นอันตรายได้
5.บางครั้งกรรมวิธีการหมักดองก็ทำโดยไม่ได้มาตรฐาน ทำให้มีการปนเปื้อนของเชื้อโรคต่างๆ ที่เป็นอันตราย เมื่อทานไปแล้วอาจทำให้ท้องเสีย อาหารเป็นพิษ ซ้ำร้ายกว่านั้นอาจเกิดโรคที่อันตรายถึงชีวิต ดังที่เคยมีข่าวว่าพบเชื้อ Clostridium perfringens ในหน่อไม้ดองบรรจุปี๊บ ทำให้คนที่ทานเสียชีวิตไปจำนวนมาก แล้วยังรวมถึงเชื้อพยาธิที่ปะปนมาในปลาร้าอีก
6.แบคทีเรีย Lactobacillus ในอาหารดอง แม้ไม่ใช่สายพันธุ์ที่ก่อโรค แต่ในคนที่ภูมิต้านทานร่างกายต่ำกว่าปกติ ก็อาจเป็นอันตรายได้เช่นกัน เช่น ในเด็กเล็ก คนแก่ คนที่ได้รับเคมีบำบัดและฉายรังสี
การดอง กับ การแช่อิ่ม ต่างกันอย่างไร
การแช่อิ่มนั้นเป็นการถนอมอาหารด้วยน้ำตาลและนิยมทำกับผลไม้รสเปรี้ยวนานาชนิด ต่างกับการดองที่เป็นการถนอมอาหารหลากหลายวิธี และจะใช้น้ำเกลือ น้ำส้มสายชูเป็นหลัก แต่จะใช้น้ำตาลเพียงเล็กน้อย และการดองสามารถทำได้กับทั้งผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยว ผัก และสัตว์บางชนิดนั่นเอง
วิธีทำมะม่วงดอง
ส่วนผสม
1.มะม่วงดิบ
2.น้ำสะอาด
3.เกลือ
4.ปูนแดง
วิธีทำ
1.นำมะม่วงมาเด็ดขั้วแล้วล้างน้ำให้สะอาด แช่ในน้ำประมาณ 10-15 นาที เพื่อล้างยางมะม่วง พักให้สะเด็ดน้ำแล้วเรียงใส่โหลให้เต็ม
2.นำเกลือกับปูนแดงมาละลายในน้ำ เอาไปต้มแล้วคนให้เข้ากัน ปิดไฟ พักให้เย็น เทใส่มะม่วง ปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 15 วัน
3.เสร็จแล้วนำมาจัดเก็บใส่ถุงซีลสุญญากาศ ป้องกันอากาศเข้าไปทำให้ผลไม้ดองเปลี่ยนสี หรือส่งกลิ่น แถมยังช่วยยืดอายุการเก็บรักษา สามารถเก็บไว้รับประทาน หรือนำไปต่อยอดเพิ่มมูลค่าสร้างรายได้
วิธีทำมะขามดอง
ส่วนผสม
1.มะขามแก่ฝักใหญ่ 1 กิโลกรัม
2.น้ำปูนใส 1/2 ถ้วย
3.เกลือป่น 1/2 ถ้วย
4.น้ำ 5 ถ้วย
5.น้ำเย็น
วิธีทำ
1.ต้มน้ำให้เดือด ใส่มะขามล้างสะอาดแล้วลงไปลวกประมาณ 1 นาที เสร็จแล้วตักขึ้นแช่น้ำเย็น
2.แกะเปลือกมะขามออกแล้วแช่ในน้ำปูนใส ประมาณ 15 นาที เอาขึ้นมาล้างด้วยน้ำให้สะอาด ผึ่งให้น้ำแห้ง นำเรียงลงในขวดแก้ว เตรียมไว้
3.ต้มน้ำเกลือให้เดือด ทิ้งไว้ให้เย็น เทน้ำเกลือใส่ให้ท่วมมะขาม ปิดฝาให้สนิท ดองไว้ 2-3 วัน เสิร์ฟกับพริกเกลือ
4.เสร็จแล้วนำมาจัดเก็บใส่ถุงซีลสุญญากาศ ป้องกันอากาศเข้าไปทำให้ผลไม้ดองเปลี่ยนสี หรือส่งกลิ่น แถมยังช่วยยืดอายุการเก็บรักษา สามารถเก็บไว้รับประทาน หรือนำไปต่อยอดเพิ่มมูลค่าสร้างรายได้
วิธีทำองุ่นดอง
ส่วนผสม
1.องุ่นดิบ 1 กิโลกรัม
2.น้ำ 500 มิลลิลิตร
3.น้ำตาลทราย 250 กรัม
4.เกลือ 50 กรัม
วิธีทำ
1.ล้างองุ่นให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำแล้วใส่ขวดโหลแก้ว
2.ตั้งหม้อเติมน้ำ เกลือ และน้ำตาลทราย ต้มให้เดือดแล้วพักไว้จนเย็นสนิท เทใส่ลงในองุ่น ปิดฝา ทิ้งไว้ประมาณ 7 วัน
3.เสร็จแล้วนำมาจัดเก็บใส่ถุงซีลสุญญากาศ ป้องกันอากาศเข้าไปทำให้ผลไม้ดองเปลี่ยนสี หรือส่งกลิ่น แถมยังช่วยยืดอายุการเก็บรักษา สามารถเก็บไว้รับประทาน หรือนำไปต่อยอดเพิ่มมูลค่าสร้างรายได้
วิธีทำพุทราดอง
ส่วนผสม
1.พุทราดิบ 1 กิโลกรัม
2.เกลือ 2 ถ้วย
3.น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
4.น้ำ 2 ถ้วย
วิธีทำ
1.ล้างพุทราให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำแล้วใส่ขวดโหลแก้ว
2.ตั้งหม้อเติมน้ำ เกลือ และน้ำตาลทราย ต้มให้เดือดแล้วพักไว้จนเย็นสนิท เทใส่พุทรา ปิดฝา ทิ้งไว้ประมาณ 7 วัน
3.เสร็จแล้วนำมาจัดเก็บใส่ถุงซีลสุญญากาศ ป้องกันอากาศเข้าไปทำให้ผลไม้ดองเปลี่ยนสี หรือส่งกลิ่น แถมยังช่วยยืดอายุการเก็บรักษา สามารถเก็บไว้รับประทาน หรือนำไปต่อเพิ่มมูลค่ายอดสร้างรายได้
วิธีทำมะกอกดอง
ส่วนผสม
1.มะกอกน้ำ 1 กิโลกรัม
2.น้ำเปล่า 5 ถ้วย
3.เกลือป่น 1/2 ถ้วย
4.น้ำผึ้ง
วิธีทำ
1.ล้างมะกอกเด็ดขั้วออก กรีดตามยาวลูกให้ทั่ว
2.เอามะกอกไปต้มประมาณ 10 นาที เสร็จแล้วพักให้สะเด็ดน้ำ เทใส่ขวดโหล เติมน้ำผึ้ง
3.ต้มน้ำเกลือพอเดือด ยกลงพักไว้ให้เย็น เทใส่ในขวดโหลมะกอก ปิดฝาดองประมาณ 4-5 วัน
4.เสร็จแล้วนำมาจัดเก็บใส่ถุงซีลสุญญากาศ ป้องกันอากาศเข้าไปทำให้ผลไม้ดองเปลี่ยนสี หรือส่งกลิ่น แถมยังช่วยยืดอายุการเก็บรักษา สามารถเก็บไว้รับประทาน หรือนำไปต่อยอดเพิ่มมูลค่าสร้างรายได้
วิธีทำมะดันดอง
ส่วนผสม
1.มะดัน 2 กิโลกรัม
2.เกลือ 1 ถ้วย
3.น้ำเปล่า 2 ลิตร
วิธีทำ
1.ล้างมะดันให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ ใส่ขวดโหลแก้วหรือภาชนะดินเผา
2.ละลายน้ำ 2 ลิตร กับเกลือ 1 ถ้วย ผสมให้เข้ากันเป็นน้ำเกลือ ปิดฝา ดองไว้ประมาณ 2 วัน
3.เสร็จแล้วนำมาจัดเก็บใส่ถุงซีลสุญญากาศ ป้องกันอากาศเข้าไปทำให้ผลไม้ดองเปลี่ยนสี หรือส่งกลิ่น แถมยังช่วยยืดอายุการเก็บรักษา สามารถเก็บไว้รับประทาน หรือนำไปต่อยอดเพิ่มมูลค่าสร้างรายได้
วิธีเก็บ และ สร้างมูลค่าให้กับผลไม้ดอง
อย่างที่ทุกคนรู้กันว่าผลไม้ดองเป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่งทำให้อาหารเสียช้าลงอยู่แล้ว แต่การที่เราจะเก็บอาหารประเภทนี้ให้อยู่ได้นานยิ่งขึ้น เราควรที่จะเลือกการซีลสูญญากาศให้ผลไม้เหล่านี้ไม่ต้องโดนอากาศ เพื่อลดปฏิกิริยาของอากาศที่จะไปกระตุ้นให้อาหารเสียนั่นเอง นอกจากนี้ยังควรที่จะต้องเก็บในที่แห้ง และ เย็นอีกด้วย นอกจากจะเป็นการเก็บให้อยู่ได้นานขึ้นแล้ว ยังสามารถเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าได้อีก แค่ติดสติ๊กเกอร์เพิ่มก็สามารถทำแบรนด์ได้แล้ว
สูตรที่เราหามาอาจจะเป็นสูตรกลางๆ ถ้าเพื่อนๆชอบรสชาติแบบไหนสามารถปรับสูตรให้เข้ากับความชอบได้เลย อย่าลืมลองไปทำตามกันนะ หรือท่านใดที่สนใจเครื่องซีลสูญญากาศก็สามารถติดต่อเรามาได้เลยที่ sumireth หรือกดที่ลิงก์นี้เพื่อดูสินค้าเพิ่มเติม ขอขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้านะ
ขอขอบคุณที่มาข้อมูลจาก
- https://hd.co.th/pickled-foods-delicious-not-good-health
- https://auntiesrecipe.bentoweb.com/th/blog/10082/blog-10082
- https://www.gourmetandcuisine.com/stories/detail/1445
- https://bester-eats.com/restaurant/105045/230689/
- https://cooking.kapook.com/view225930.html
.
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
- ประโยชน์ของลูกพรุน ช่วยขับถ่าย พร้อมเมนูทำเองง่ายๆ
- 5 ผลไม้เชื่อม ทำขายสร้างรายได้ไม่ยาก
- วิธีทำผลไม้แช่อิ่ม เก็บได้นานด้วยเทคนิคถนอมอาหาร
- 4 เมนู มะยงชิดยอดฮิต ทำง่ายคลายร้อน
- สารพัดประโยชน์ของกล้วยหอม ทานอร่อยได้สุขภาพ