fbpx

เปิดเมนูเมล่อน หอม อร่อย ทำตามได้ไม่ยาก

Banner เมล่อน

เมล่อน ผลไม้ฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่น เมื่อพูดถึงผลไม้ที่หลายๆคนต้องการทานในหน้าร้อน แน่นอนว่าทุกคนจะต้องนึกถึงผลไม้ที่มีความฉ่ำน้ำเพื่อเป็นการคลายร้อนและยังเป็นการเพิ่มความสดชื่นเป็นอย่างดีอีกด้วย อีกทั้งยังมีความหอมหวานจึงเป็นที่นิยม เพื่อคุณภาพที่ดีของเมล่อน จึงต้องพึ่งพาการปลูกยังพิถีพิถันมีการดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดระยะการปลูกกว่า 90 วัน

ประโยชน์ของเมล่อน

ประโยชน์เมล่อน

มีสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญในปริมาณสูง มีทั้งวิตามินซี วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก ซึ่งล้วนให้ประโยชน์แก่ร่างกายทั้งนั้น แถมยังไม่มีไขมันและคอเลสเตอรอล อีกทั้งแคลอรีต่ำ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ถึงแม้จะมีความหวานแต่เมล่อนเป็นผลไม้ที่แคลอรีต่ำ 100 กิโลกรัม มีเพียง 34 กิโลแคลอรี ปริมาณวิตามินในเมล่อนสูงกว่าแตงโมถึง 4 เท่า สูงกว่าแอปเปิ้ลถึง 6 เท่า มีสรรพคุณดังนี้

– ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
– ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
– อุดมไปด้วยสารอาหาร และใยอาหารที่ช่วยในเรื่องของการขับถ่าย
– ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ
– มีเบต้าแคโรทีนสูง ซึ่งสามารถช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ
– ช่วยลดความเครียด สามารถทำให้หลับสบาย
– กระตุ้นการทำงานของระบบประสาทและสมองให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
– บำรุงสายตา ช่วยในเรื่องของการมองเห็น

เมล่อนกับแคนตาลูปต่างกันไหม

เมล่อนแต่ละสีต่างกันอย่างไร

เมล่อนและแคนตาลูปเป็นพืชในตระกูลแตงที่นิยมปลูกเพื่อการค้าชนิดหนึ่งที่มีราคาต่อผลสูง เนื่องจากเป็นแตงที่มีรสหอมหวาน มีคุณค่าทางโภชนาการ ประกอบด้วยวิตามินเอ และวิตามินซีสูงจึงเป็นแตงที่ที่นิยมบริโภคกันมากไม่แพ้แตงโมเลยทีเดียว ถ้าแบ่งเมล่อนและแคนตาลูปแบบง่ายๆ โดยความเข้าใจของคนกินและคนทั่วไปเรามักจะแบ่งเมล่อนออกเป็นตามลักษณะผิวของเปลือก ดังนี้

1. เมล่อน จะมีผิวเรียบ เปลือกผลสีขาวครีม ผิวส่วนใหญ่เป็นตาข่ายสานกันเป็นลายนูนชัดเจน เนื้อของเมล่อนมีทั้งสีส้มและสีเขียว เนื้อมีทั้งสีส้มและสีเขียวโดยพันธุ์ที่นิยมปลูกอย่างแพร่หลาย
2. แคนตาลูป จะมีผิวเรียบ หวาน โดยพันธุ์ที่นิมยมปลูกอย่างแพร่หลายได้แก่ เนื้อสีส้มจะมีผิวขรุขระ เปลือกหนาแข็ง และมีเนื้อสีส้ม

เมล่อนสีส้ม VS สีเขียว

ความแตกต่างเมล่อน แคนตาลูป

เคยสงสัยกันไหมว่าเมล่อนสีส้มกับสีเขียวแตกต่างกันอย่างไร ?
เมล่อนสีส้ม Melon Orange Rocky มีรสชาติหวานหอม เนื้อกรอบ หวานน้อย ฉ่ำน้ำน้อยกว่าสีเขียว มีกลิ่นหอมโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์หากเก็บไว้จนขั้วแห้ง และแช่เย็นก่อนปอกรับประทาน จะนุ่มหอมอร่อยมาก
เมล่อนสีเขียว Melon Green Rocky มีรสชาติหวานเข้มมีลักษณะเด่นที่ยิ่งเคี้ยวยิ่งหวาน หอม เนื้อกรอบขณะเดียวกันมีความหวานและฉ่ำน้อยกว่าสีส้ม กลิ่นไม่แรงสามารถแช่เย็นได้ และปอกรับประทานได้ทันที

เมล่อนสมูทตี้

เมล่อนสมูตตี้

ส่วนผสม

– เมล่อน 1 ลูก
– นำเปล่า 100 มิลลิลิตร
– น้ำแข็ง

วิธีการทำ

1. นำเมล่อนมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วน้ำไปแช่ช่องฟรีซไว้ 1 คืน
2. นำเมล่อนที่แช่ช่องฟรีซไว้มาปั่น
3. ไม่ต้องเติมน้ำแข็ง เติมน้ำ 100 มล เพื่อไม่ให้เครื่องฝืด
4. ใส่แก้วพร้อมรับประทานได้เลย

เมนูเค้กเมล่อน

เค้กเมล่อน

ภาพจาก https://sharp-weeclub.com/

ส่วนผสม

– แป้งอเนกประสงค์ 1+2/3 ถ้วย
– ผงฟู 2 ช้อนชา
– เกลือ 1/4 ช้อนชา
– ไข่ไก่ 4 ฟอง
– น้ำตาลทราย (1) 2/3 ถ้วย
– เนื้อเมลอนพันธุ์มรกต 5 ถ้วย
– นมสดรสเมลอน (1) 1/3 ถ้วย
– น้ำมันพืช 1/3 ถ้วย
– นมสดรสเมลอน (2) 1/3 ถ้วย
– เจลาติน (1) 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
– เนื้อเมลอนพันธุ์มรกต (2) 2 ถ้วย
– น้ำตาลทราย (2) 3/4 ถ้วย
– วิปปิ้งครีม 1 ถ้วย
– เนื้อเมลอนพันธุ์มรกต (3) 2 ถ้วย
– น้ำเปล่า 1 ถ้วย
– เจลาติน (2) 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ทำเค้กโดยร่อนแป้งอเนกประสงค์ ผงฟูและเกลือเข้าด้วยกัน พักไว้ ผสมไข่ไก่ น้ำตาลทราย (1) น้ำมันพืช เนื้อเมลอน (1) และนมสด (1) ลงในโถปั่น เดินเครื่องไปจนส่วนผสมเนียน เทลงไปคนกับส่วนผสมแป้ง คนให้เข้ากัน เทใส่ถาดอบ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 15-20 นาที หรือจนสุก นำออกมาวางพักให้เย็น
2. ทำมูสโดยเทนมสด (2) ลงในหม้อขนาดเล็ก ใส่เจลาติน (1) ลงไป รอจนเจลาตินขึ้นฟู เทน้ำตาลทราย (2) และวิปปิ้งครีมลงไป ตั้งไฟอ่อนคนไปเรื่อย ๆ จนเจลาตินและน้ำตาลทรายละลาย จากนั้นเทลงในโถปั่น ใส่เนื้อเมลอน (2) ลงไปแล้วเดินเครื่องจนส่วนผสมเนียน
3. ตัดเค้กเมลอนที่เย็นตัวแล้วใส่ลงในพิมพ์ เทมูสเมลอนลงไปเกลี่ยให้เรียบแล้วนำไปแช่เย็นจนมูสเซตตัว
4. ทำเจลลี่เมลอนโดยนำเนื้อเมลอน (3) ผสมน้ำเปล่าแล้วนำไปปั่นในโถปั่น กรองด้วยกระชอนหรือผ้าขาวบาง ใส่เจลาติน (2) ลงไปรอจนเจลาตินขึ้น จากนั้นนำไปเข้าไมโครเวฟประมาณ 40-50 วินาที จนเจลาตินละลายแล้วค่อย ๆ ตักราดลงไปบนมูสเมลอนจนเต็มพิมพ์ นำไปแช่เย็นจนกว่าจะเสิร์ฟ

เมนูพุดดิ้งเมล่อน

พุดดิ้งเมล่อน

ส่วนผสม

– เมลอน 100 กรัม
– วิปปิ้งครีม 100 มิลลิลิตร
– นมรสเมลอน 300 มิลลิลิตร
– ผงเจลาติน 8 กรัม

ส่วนผสมน้ำราด

– น้ำตาลโตนด
– เกลือหยิบมือ
– กะทิ

วิธีการทำ

1. นำเมล่อนมาผสมกับผงเจลาติน และทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีให้เจลาตินพองตัว
2. ลวกเมล่อนในน้ำเดือดสัก 1-2 นาที เพื่อฆ่าเอนไซม์ในเมล่อน
3. นำเมล่อนที่ลวกมาปั่นให้ละเอียด
4. ผสมนมเมล่อนกับวิปปิ้งครีมเข้าด้วยกัน และนำไปต้มให้อุ่นๆ ก่อนที่จะใส่เจลาตินลงไป
5. นำเมล่อนที่ปั่นแล้วใส่ลงไป หลังจากนั้นคนให้เข้ากัน
6. นำมาเทใส่ภาชนะและแช่ตู้เย็นไว้อย่างต่ำ 2 ชั่วโมง
7. ต้มน้ำกะทิให้อุ่นๆและใส่น้ำตาลโตนดลงไป คนให้เข้ากัน และตั้งทิ้งไว้จนเย็นสนิท
8. นำน้ำราดมาราดพุดดิ้งที่แช่ไว้ในตู้เย็น เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย

บทส่งท้าย

จบไปแล้วกับเนื้อหาความรู้ของเมล่อน ซึ่งเนื้อหานี้ก็ทำให้รู้เรื่องต่างๆมากมายของเมล่อน ไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ ความแตกต่างของเมล่อนกับแคนตาลูป และเมนูต่างๆที่ทำมาจากผลเมล่อน บอกเลยว่าทำง่ายทุกเมนู สามารถทำกินได้ง่ายๆที่บ้าน รับรองว่าอร่อยถูกใจแน่นอน สำหรับใครที่สนใจถนอมอาหาร และยืดอายุให้กับเมล่อนแสนสดชื่น เราขอแนะนำถุงซีลสุญญากาศของแบรนด์ SUMIRE ถุงซีลที่สามารถเก็บรักษาละถนอมอาหารของคุณได้นานยิ่งขึ้น ตัวถุงมีความหนา สามารถป้องกันการรั่วซึมได้อีกด้วย

ขอขอบคุณที่มาข้อมูลจาก
https://salehere.co.th/articles/melon-benefit
https://homeday.co.th/cantaloupe-species
https://www.wongnai.com/recipes
https://cooking.kapook.com/view196554.html
https://www.youtube.com/watch?v=az7Bhl9cWRw
https://www.foodgallery.co.th/
https://www.foodgallery.co.th/th/
https://108technofarm.com/

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง