บัตเตอร์นัท (Butternut squash) เป็นผักที่มีลักษณะเป็นฟักทองลูกเล็ก มีรูปทรงคล้ายกับลูกแพร์ สีเปลือกของมันจะเป็นสีเหลืองอ่อน และเนื้อในมีสีส้มสดใส บัตเตอร์นัทเป็นที่นิยมในการปรุงอาหารหลายชนิดเนื่องจากมีรสชาติหวานหอม และเนื้อเนียนนุ่ม วันนี้ สุมาลี พาไปดูเมนูที่ทำจากบัตเตอร์นัท จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันได้เลย
หัวข้อบทความ
Toggleประโยชน์ของฟักทองบัตเตอร์นัท
- ป้องกันมะเร็ง บัตเตอร์นัทสควอชอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ทั้งสารโพลีฟีนอลและสารกลุ่มฟลาโวนอยด์ เช่น เบต้าแคโรทีนและคริปโทแซนทิน สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้จะช่วยชะลอความชรา ช่วยลดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งและสามารถหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้องอก ป้องกันมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ
- บำรุงสายตา บัตเตอร์นัทสควอชมีสารเบต้าแคโรทีนสูง ปริมาณ 100 กรัม มีเบตา-แคโรทีนสูงถึง 4,226 ไมโครกรัม ซึ่งจะช่วยระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง เบต้าแคโรทีนเมื่อย่อยสลายแล้วจะได้เป็นวิตามินเอ ซึ่งจะช่วยในการมองเห็นทำให้ดวงตามีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ชะลอการเสื่อมของจอประสาทตา ลดความเสื่อมของเซลล์ลูกตา ลดความเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจก
- วิตามินเอสูง ปริมาณฟักทองบัตเตอร์นัท 100 กรัม มีวิตามินเอสูงถึง 10,630 IU จึงช่วยบำรุงสายตา เพิ่มความสามารถในการมองเห็นตอนกลางคืนหรือในที่แสงสว่างน้อย ตามัว ตาฝ้าฟาง และยังช่วยป้องกันเซลล์เยื่อบุต่าง ๆ ของร่างกายทำงานผิดปกติ วิตามินเอยังช่วยป้องกันมะเร็งปอดและมะเร็งในช่องปาก
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ฟักทองบัตเตอร์นัทมีวิตามินซี จึงช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงขึ้น ช่วยป้องกันโรคหวัดและช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคต่างๆ ให้แก่ร่างกายได้เป็นอย่างดี
- บำรุงกระดูก ฟักทองบัตเตอร์นัท 100 กรัม มีปริมาณแคลเซียมประมาณ 48 มิลลิกรัม ซึ่งแคลเซียมช่วยในการเสริมสร้างและซ่อมแซมกระดูก ช่วยให้ฟันแข็งแรง อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนอีกด้วย
ซุปฟักทองบัตเตอร์นัท
ซุปบัตเตอร์นัทเป็นอาหารที่อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถทานได้ ได้ประโยชน์เน้นๆเลยหล่ะ
ส่วนผสม
- ฟักทองบัตเตอร์นัท 500 กรัม
- น้