วันนี้เรามาเอาใจสายหวานกันซักหน่อย ถ้าพูดถึงเมนูยอดฮิตในตอนนี้จะนึกถึงอะไรไปไม่ได้ นอกจากเมนูชาไทย หลายๆคนอาจจะนึกว่าชาไทยนั้นสามารถนำมาทำเป็นรูปแบบเครื่องดื่มได้อย่างเดียว แต่จริงๆแล้วชาไทยไม่ว่าจะนำมาทำเมนูของหวานอะไรก็อร่อย แถมเป็นเมนูที่คนยังให้ความสนใจเป็นอย่างมากในตอนนี้ แล้วแต่ละเมนูจะทำง่ายขนาดไหน เราไปดูพร้อมๆกันเลย
หัวข้อบทความ
Toggleสังขยาชาไทย
ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://www.pim.in.th
ใครว่าสังขยาชาไทยทำยาก จริงๆแล้วง่ายกว่าที่คิดมาก เพียงวัตถุดิบไม่กี่อย่างก็ได้สังขยาชาไทยที่สุดแสนจะอร่อย ทานคู่กับขนมปังนุ่มๆ จะมีอะไรฟินไปกว่านี้หล่ะ
ส่วนผสม
- ผงชาไทย 5 ช้อนโต๊ะ
- น้ำร้อน 200 มิลลิลิตร
- ไข่ไก่ 4 ฟอง
- น้ำตาล 140 กรัม
- ครีมเทียม 450 มิลลิลิตร
- แป้งข้าวโพด 30 กรัม
- เนยสด(เค็ม) 80 กรัม
วิธีทำ
- ชงชาไทยกลับไปมาประมาณ 7 ครั้ง คั้นเอาน้ำชาเข้มข้น 150 มิลลิลิตร
- ผสมครีมเทียม แป้งข้าวโพดให้ละลายเข้ากันดี แล้วใส่ไข่ไก่ลงไปตีให้เข้ากัน แล้วพักไว้
- เตรียมภาชนะผสม ใส่น้ำตาลทราย น้ำชาไทยเข้มข้น และครีมเทียม คนผสมให้เข้ากันดี แล้วตั้งไฟให้เดือด ใช้ไฟกลาง ค่อนไปแรง
- เมื่อส่วนผสมร้อน เข้ากันดีแล้ว ใส่ครีม แป้ง และไข่ไก่ที่ผสมไว้ลงไป เทลงไปแล้วค่อยๆ คนอยู่ตลอดเวลา จนส่วนผสมเดือดและข้น แล้วใส่เนยลงไปคนให้ละลายเข้ากันดี
- นำสังขยาทั้งหม้อมารองในน้ำเย็นแล้วคนไปเรื่อย ๆ เพื่อที่จะคลายความร้อน ประมาณ 5-10 นาที สังขยาจะเนื้อเนียนเข้ากันดี ตักเสิร์ฟ
พุดดิ้งชาไทย
ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://www.wongnai.com
เมนูของหวานเย็นชื่นใจ ทำง่าย รสชาติเข็มข้น ขอเสนอเมนู “พุดดิ้งชาไทย” เนื้อนุ่ม เด้งดึ๋ง โดยพุดดิ้งชาไทยนั้นจะมีรสชาติที่ไม่หวานมาก เหมาะกับคนที่ชอบทานหวานน้อยสุดๆ
ส่วนผสม
- ผงชาไทย ½ ถ้วยตวง
- นมข้นหวานผสมชาไทย 1 หลอด
- นมสด 75 มิลลิลิตร
- ผงเจลาติน 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร (สำหรับต้มชา)
- น้ำเปล่า 75 มิลลิลิตร (สำหรับผสมเจลาติน)
- วิปปิ้งครีม 300 มิลลิลิตร
วิธีทำ
- นำผงเจลาติน ผสมกับน้ำร้อนคนให้เข้ากัน แล้วนำไปแช่ตู้เย็นจ