ประโยชน์ของชาขาว ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเรื่องผิวพรรณ

ชาขาว ถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เป็นชาที่ได้รับการเก็บใบชาเฉพาะส่วนของใบชาที่อยู่ยอดสุดเพียงใบเดียว ซึ่งเป็นยอดที่อ่อนที่สุดที่เพิ่งแทงยอดออกมาและยังมีอายุน้อยๆ ชาขาวมีสรรพคุณหลากหลายอย่างที่บางคนก็ยังไม่ทราบ ขาขาวช่วยในเรื่องใดของสุขภาพบ้าง และมีประโยชน์ต่อเรื่องผิวอย่างไร วันนี้เราจะมาพาทุกท่านไปดูกัน

 

สรรพคุณของชาขาว

ชาขาว มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าชาเขียวถึง 3 เท่า มีวิตามินซี อี กรดอะมิโน แร่ธาตุต่างๆ เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคไขข้อ ชะลอความแก่ ลดรอยเหี่ยวบนใบหน้า ดื่มชาขาวร่างกายรู้สึกสดชื่น ช่วยผ่อนคลาย ลดความเครียด ชาขาว ช่วยป้องกัน และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งลำไส้ มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม เนื่องจากมีสารคาเทซิน สารโพลีฟินอล สารพลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูนอิสระ ทั้งยังบำรุงหลอดเลือด และหัวใจ ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ป้องกันโรคเบาหวาน ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล กำจัดไขมันในเส้นเลือด แถมยังช่วยลดน้ำหนักอีกด้วย

 

ชาขาวกับชาเขียวต่างกันอย่างไร

ชาขาวจะมีกลิ่นอ่อนกว่าชาชนิดอื่นและมีปริมาณคาเฟอีนที่น้อยกว่า หรือมีประมาณ 15 มิลลิกรัมต่อถ้วย ในขณะที่ชาเขียวและชาดำจะมีปริมาณของคาเฟอีนอยู่ประมาณ 20 และ 40 มิลลิกรัม หรือมากกว่า ตามลำดับ และชาที่ซงได้จากยอดชาขาวนี้ยังมีปริมาณของสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าชาที่ชนิดอื่น ๆ และสูงชาเขียวถึง 3 เท่า อีกทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินซีและวิตามินอีอีกด้วย

 

ควรดื่มชาขาวตอนไหน

  • ควรดื่มชาหลังจากที่ชงเสร็จใหม่ๆ ร้อนๆ เพราะการดื่มแบบนี้จะช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากใบชา มากกว่าการชงดื่มแบบเย็นหรือปล่อยให้อุณหภูมิปกติ เพราะคุณประโยชน์ของชาก็จะค่อยๆ ลดลงและจางลงไปไปเรื่อย ๆ เช่นเดียวกัน โดยหลังจากชงชาร้อนๆแล้ว ไม่ควรที่จะปล่อยไว้นานเกิน 2 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นสารคาเทชินส์ (Catechins) จะถูกดักจับและเกิดการรวมตัวกับออกซิเจน สังเกตได้จากสีของน้ำชาที่เปลี่ยนไป กลายเป็นสีที่คล้ำลงและมีรสชาติฝาด เนื่องจากมีกรดแทนนิน (Tannin) สูงขึ้น หากเราดื่มชาตอนที่มีรสฝาด จะส่งผลกระทบมายังกระเพาะอาหารและลำไส้ได้ เนื่องจากมีการดูดซึมสารอาหารได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการดูดซึมธาตุเหล็ก แคลเซียมและแมกนีเซียม
  • ควรดื่มชาหลังทานอาหารไปแล้ว 2-3 ชั่วโมง สามารถช่วยกระตุ้นการย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี โดยน้ำย่อยจะหลั่งออกมาภายในกระเพาะอาหารเพียงพอที่จะย่อยอาหารจำพวกวิตามินต่างๆ ได้ และสำหรับคนที่ชอบจิบน้ำชาแทนการดื่มน้ำเปล่าหรือคนที่เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ แนะนำว่าควรเลือกจิบน้ำชาแบบอ่อนแทนการจิบน้ำชาแบบแก่ เพราะการจิบน้ำชาแบบแก่อาจจะทำให้ภายในกระเพาะอาหารเกิดการหลั่งกรดออกมามากเกินไป จนเกิดการระคายเคืองภายในกระเพาะอาหารได้
  • ควรดื่มชาร้อน 4 ถ้วยต่อวัน เพื่อช่วยบำรุงกระดูกและฟัน เนื่องจากภายในใบชามีสารไฟโตเคมีคอลที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงขึ้น

 

ชาขาวกับเรื่องผิว

ชาขาวมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระสูงมาก ทำให้ช่วยชะลอความแก่ได้ดี สารที่สกัดจากชาขาวจะช่วยปกป้องการทำงานของเอนไซม์ที่ทำลายอ