หากคุณชื่นชอบการทานขนมปัง เรามั่นใจว่าชื่อของ ซาวโดวจ์ (Sourdough) คงเป็นสิ่งที่คุณต้องได้ยินผ่านหูมาบ้างอย่างแน่นอน เนื่องจากมีกระแสนิยมที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากกระแสการทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพที่เพิ่มมากขึ้น การทานขนมปังที่ใคร ๆ ก็มองว่าเป็นอาหารที่กินแล้วอ้วน กินแล้วให้พลังงานหนัก แต่เมื่อเปลี่ยนเป็นขนมปังประเภทนี้ กลับมีประโยชน์มากเสียจน ลบเลือนรูปลักษณ์ที่อาจไม่น่าทานของมันไปได้จนหมด บทความนี้ SUMIRE จะพาคุณมาพบเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับขนมปังซาวโดวจ์ หากพร้อมแล้วไปชมกันเลย !
ซาวโดวจ์เป็นขนมปังที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ว่ากันว่ามีอายุมากกว่า 3,500 เป็นขนมปังที่เกิดขึ้นจากความบังเอิญ เนื่องจากเผลอวาง แป้ง น้ำ นม เอาไว้กลางแจ้ง จนทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีเกิดขึ้นกับส่วนผสมทั้งหมด จนเกิดมาเป็นแป้งขนมปังที่มีรสชาติเปรี้ยวนำ และเมื่อนำไปอบแล้วแม้ภายนอกจะมีรูปลักษณ์ที่แข็งเหมือนดั่งก้อนหิน แต่เมื่อผ่าออกมาแล้วภายในนั้นนุ่มฟู ซึ่งเกิดจากสิ่งมีชีวิตขนาดจุลภาคอย่าง “ยีสต์” ภายในแป้งขนมปังนั่นเอง
การปรุงแป้งของ Sourdough ส่วนมากแล้วจะใช้ยีสต์ที่เพาะเลี้ยงเอง รสชาติของขนมปังจะขึ้นอยู่กับชนิดของผลไม้ที่นำมาเพาะเลี้ยงยีสต์ โดยส่วนมากจะมีรสชาติค่อนข้างเปรี้ยว อาจมีรสขมแซม ๆ บ้าง มาพร้อมกับกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของผลไม้ที่ใช้เป็นเลี้ยงยีสต์ ส่วนมากแล้วขนมปังซาวโดวจ์จะไม่ได้รับความนิยมกินเปล่า ๆ สักเท่าไหร่ เนื่องจากรสสัมผัสไม่ได้นิ่มฟูสู่ฟันเหมือนขนมปังตามปกติ แถมยังมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้มักถูกนำมาทานคู่กับเนย น้ำผึ้ง แย้ม หรือจะทานในรูปแบบของแซนด์วิชเองก็อร่อยเช่นเดียวกัน
